WD Black – สีดำ : ที่สุดของคำว่าประสิทธิภาพ ! ซึ่งหากใครที่กำลังมองหา HDD ที่ต้องการคำว่าแรงไว้ก่อน ประสิทธิภาพสูงสุดเข้าว่า WD Black คือคำตอบ ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานในช่วงที่กว้างกว่า WD Blue คือมันสามารถใช้ได้กับ PC ทั่วๆไปเหมือนกับ WD Blue หรือสำหรับกลุ่มผู้ทำงานในด้านมัลติมีเดียต่างๆ จะตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งภาพ ทำงานกราฟิกหรือแม้กระทั่งบรรดาคอเกมทั้งหลายที่ต้องการความรวดเร็วในการตอบสนอง เพราะมันจะมีแคชในขนาดที่ใหญ่เป็นพิเศษตั้งแต่ 64MB ไปจนถึง 128MB (แตกต่างกันไปตามความจุ)และไม่เพียงแค่เรื่องของความแรงเท่านั้น มันยังจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี StableTrac ที่จะช่วยเพิ่มความมีเสถียรภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งทาง Western Digital ก็กล้าที่จะรับประกัน WD Black ยาวนานถึง 5 ปีเต็ม
WD Red – สีแดง : หากกำลังมองหาทางเลือกสำหรับใช้งานร่วมกับ Nas สีแดงคือคำตอบจากทาง Western Digital โดย WD Red ได้รับการออกแบบสำหรับใช้งานร่วมกับ Nas หรืออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายโดยเฉพาะ แต่ไม่ถึงกับศุนย์จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่อย่าง Data centers มันเหมาะเพียงแค่ในระดับ SOHO (Small Office/Home Office) ที่จัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายเข้าสู่ Nas จะทั้งในบ้านเรือนทั่วไปหรือตามสำนักงานขนาดเล็ก ทั้งนี้มันก็ยังจะถูกแบ่งออกเป็นสองซีรย์ด้วยกันคือ WD Red และ WD Red Pro โดยความแตกต่างระหว่าง Pro และไม่ Pro ก็คือ ในซีรีย์ปรกติจะเหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่ได้หนักหน่วงมากนัก เหมาะกับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลในเครือข่าย(Nas)ในช่วง 1-8 Bay ส่วนในซีรีย์ Pro ก็เน้นสำหรับผู้ที่มีการใช้งานหนัก มีการเข้าถึงข้อมูลตลอดเวลา เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่หรือสำหรับสื่อจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่ายในระดับ 16 bay ขึ้นไป
ได้ทราบกันไปแล้วนะครับว่า HDD (Hard Disk Drive) จากทาง Western Digital ที่ได้มีการแบ่งแยกสีสันแตกต่างกันออกไปมากถึง 5 สีนั้นมันมีความแตกต่างอย่างไรกันบ้าง เหมาะกับการใช้งานในด้านใดบ้าง คราวนี้ใครที่อาจจะเคยสับสนนั้นคงจะทราบแล้วว่า สีไหน รุ่นไหนเหมาะสำหรับการใช้งานของเรา และหากใครที่มีข้อสงสัยว่า WD Green นั้นหายไปไหน ? ก็แจ้งให้ทราบกันตรงนี้อีกครั้งว่าทาง Western Digital ได้ทำการยกเลิกสายพานการผลิต WD Green ไปแล้วในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นว่ามันทับซ้อนอยู่กับตลาดของ WD Blue นั่นเอง และจากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้รับทราบกันไปนั้น หากจะให้สรุปกันแบบสั้นๆในคำถามที่มักจะพบเจออยู่บ่อยครั้งคือ Blue กับ Black เลือกตัวไหนดี ? คำตอบที่จะให้ไปก็คงตอบแบบง่ายๆเช่นกันว่า ถ้าต้องการเน้นเร็ว แรง ในแบบฉบับของ HDD เน้นเล่นเกมหรือโหลดข้อมูลขนาดใหญ่บ่อยครั้ง คำตอบที่ได้ก็คือจัด Black ไปเลยครับ แต่หากว่าไม่ได้ใช้งานหนักหน่วงอะไรเพียงแค่ดูหนังฟังเพลงเล่นเนตหรือใช้ทำงานเบาๆด้านออฟฟิตต่างๆก็เลือก Blue ซึ่งมันก็เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายแพงกว่าโดยเปล่าประโยชน์